พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระสิวลี หลวงพ่...
พระสิวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
พระสิวลีเป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า “พระอรหันต์ผู้เป็นเลิศในทางมีลาภมาก” มีอานุภาพให้ผู้ใช้เจริญด้วยลาภสักการะ ผลประโยชน์ที่ยังไม่เกิดก็ให้เกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็ให้เจริญงอกงาม รวมทั้งปัดเป่าอุปสรรคให้คลายจาง ความสำเร็จเข้ามาแทนที่

...พระสิวลีหล่อโบราณ ประมาณปี249กว่าๆ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อพ่อปาน วัดบางเหี้ย หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก...ท่านสำเร็จ นะปัดตลอด (สุดยอดทางแคล้วคลาด) พิธีปลุกเสกของวัดสุทัศน์ จะเชิญท่านมาร่วมปลุกเสกทุกครั้ง...ท่านยังสำเร็จศิลปะวิทยาที่ว่าด้วยการสร้าง "พระสิวลี" ด้วยความที่การสร้างพระสิวลีของท่านเป็น "วิชา" ความขลังที่ปรากฏจึงอยู่ในลักษณะของวิชา ผิดกับพระสิวลีที่ถูกอธิษฐานด้วยพระอริยบุคคลโดยทั่วไป อานุภาพที่ปรากฏจึงแปลกต่างกว่ากันอยู่มาก คนที่อาราธนาติดตัวเท่านั้นจึงจะทราบดี...!
...หลวงพ่อแฉ่ง ท่านสร้างพระสีวลีได้มากประสบการณ์ที่สุด และเป็นที่ต้องการมากที่สุดของบรรดาพ่อค้าแม่ขายไปจนถึงนักธุรกิจ เด่นทางทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรือง โชคลาภ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาด...( นะพุทโธ เมตตา นะชาลีติ 9จบ )

...วัดบางพังเป็นวัดเก่าแก่ โดยชาวบ้านสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา เหตุที่ชื่อวัดบางพังก็เนื่องจากวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเข้ามาเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "วัดบางพัง" ชื่อเป็นทางการชื่อว่า "วัดศรีรัตนาราม"

หลวงพ่อแฉ่งท่านเกิดที่ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2428 โยมบิดาชื่อ สิน โยมมารดาชื่อ ขลิบ ตอนเด็กๆ ท่านเป็นคนที่มีลักษณะดีผิวพรรณงาม บิดาจึงตั้งชื่อว่า แฉ่ง ในปีพ.ศ.2443 บิดา-มารดาได้นำไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสลักเหนือ 1 พรรษา ก็สึกออกมาช่วยบิดามารดาทำงานเป็นหัวแรงสำคัญของครอบครัว ท่านเป็นคนขยัน รักสงบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่อมามี เหตุให้ท่านต้องไปอยู่ทางภาคเหนือ แล้วก็อุปสมบทที่วัดทางภาคเหนือ หนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก พอบวชแล้วท่านก็ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนเรียนพุทธาคมจากพระอาจารย์อีกหลายองค์ จากนั้นท่านก็ออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในป่าเขาลำเนาไพร แถบภาคเหนือ ภาคอีสาน เลยเข้าไปถึงประเทศลาว เขมร พม่า ท่านธุดงค์นานถึง 15 ปี จึงย้อนกลับมาภูมิลำเนาเดิม ที่บ้านวัดสลักเหนือ มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางพัง ชาวบ้านในแถบนั้นจำท่านแทบไม่ได้...

วัดบางพัง ขณะนั้นมีพระอธิการเจริญเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งอยู่ในวัยชรามาก บริหารงานภายในวัดไม่ไหว เสนาสนะต่างชำรุดมาก จึงเป็นภาระของ หลวงพ่อแฉ่งรับภาระทำการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างแข็งขัน ร่วมกับชาวบ้านในแถบนั้น จนวัดเจริญขึ้น ด้วยชาวบ้านศรัทธาในตัวหลวงพ่อแฉ่ง ครั้นหลวงพ่อเจริญมรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้ออกหนังสือแต่งตั้งให้หลวงพ่อแฉ่งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน เป็นที่ยินดีของชาวบ้าน เนื่องท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเสมอมา วิชาอาคมต่างๆ ที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจากการออกธุดงค์ ได้นำมาช่วยชาวบ้านที่ถูกของ ถูกคุณไสยต่างๆ ทั้งวิชาแพทย์แผนโบราณท่านก็มีความชำนาญเป็นอย่างยิ่ง ช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้านหายไปทุกราย น้ำมนต์ของท่านก็ขลังนัก ดื่ม อาบ พรม เป็นสิริมงคลรักษาโรคภัยได้

พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อแฉ่งมีประสบการณ์ในครั้งสงครามอินโดจีนมาแล้วจนมีชื่อ เสียงโด่งดังมาก และในพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ๆ หลวงพ่อแฉ่งท่านได้ถูกนิมนต์ให้ร่วมพิธีทุกครั้ง หลวงพ่อแฉ่งท่านมรณภาพลงในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 สิริอายุได้ 72 ปี พรรษาที่ 52
______________________________________________________________________________________________________________________________

"พระสิวลี"...พระอรหันต์สาวกผู้เป็นเลิศทางด้านโชคลาภ!
...พระฉิม พระฉิมพลี พระฉิมพาลี พระอรหันต์สาวกในสมัยพุทธกาล ผู้เป็นเลิศทางลาภสักการะ!! สาวกพุทธเจ้า ผู้ใดได้บูชาจะเป็นศิริมงคล ก่อเกิดโชคลาภขจัดความทุกข์ยากบังเกิดความคล่องตัวในการประกอบสัมมาอาชีพ

...พระสิวลี เป็นที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ ที่มีบารมีในทางด้านโชคลาภ คือท่านจะเดินทางไปทางไหน สู่ที่แห่งใด ก็มักจะเกิดลาภกับท่านอยู่เสมอ การที่อาศัยบารมี ของพระฉิมพลี หรือ พระสิวลี จะทำให้ผู้ที่เคารพบูชาท่านได้รับผล เป็นความสงบสุขร่มเย็น และสมบูรณ์พูนสุขด้วยโภคทรัพย์ ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีลาภ คนไทย นับถือ พระฉิมพลีมาจากชาวมอญที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทย และได้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันก็ได้มีการปั้น หรือสร้างพระสีวลี หรือ พระฉิมพลี ประดิษฐานไว้ทั่ววัด หรือได้มีผู้คนนำไปบูชาที่บ้านเพื่อกราบไหว้และก่อให้เกิดโชคลาภ ความสวัสดีมีชัยแก่ตนและครอบครัวพระฉิมพลี มีรูปลักษณ์อิริยาบถท่ายืน หรือท่ากำลังเดินออกธุดงค์ เป็นรูปพระภิกษุสงฆ์ ยืนถือไม้เท้าในมือขวา ส่วนมือซ้ายนั้นแบกกลดพาดอยู่บนบ่า และสะพายย่ามใส่เครื่องอัตถบริขาร

...คณาจารย์ผู้เรืองเวทย์แก่กล้าในฌานสมาบัติและมีบุญบารมี มักจะสร้าง พระสิวลีขึ้นในรูปแบบของพระผง รูปหล่อ อักขระยันต์ ในแบบของตะกรุด หรือธงพระสิวลี ทำการปลุกเสกด้วยอำนาจจิต และคาถาอาคมจนมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนนำไปบูชาแล้วบังเกิดโภคลาภ เจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จนาๆนับประการจนเป็นที่กล่าวชานเลื่องลือ พระสิวลีที่ถูกสร้างเป็นพระเครื่อง และได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากผู้นิยมพระเครื่องพระบูชา เนื่องด้วยท่านสำเร็จวิชา "สิวลี" อันได้แก่ พระสิวลีของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง และอีกท่านที่สำเร็จวิชา "ดวงแก้วสิวลี" ได้แก่ พระสิวลีหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ทั้งสองท่านโดดเด่นเป็นเอกอุในทาง "ขลัง" ที่ปรากฏอยู่ในลักษณะของวิชา ซึ่งจะผิดกับพระสิวลีที่ถูกอธิษฐานจิตด้วยพระอริยะทั่วไป อานุภาพที่ปรากฏจึงแปลกต่างกว่ากันอยู่มากมาย คนที่อาราธนาติดตัวเท่านั้นจะทราบดี ประจักษ์ชัดเป็นที่ปรากฎแก่ผู้ที่ได้นำไปอารธนาใช้บุชาใช้ติดตัวแบบชัดเจน

...การบูชาพระสิวลีที่เป็นพระเครื่องนอกจากจะได้บารมี และพลังอำนาจของเกจิอาจารย์ที่ท่านปลุกเสกไว้ การบูชาพระสิวลีที่ถูกต้องควรน้อมจิตระลึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์ เพราะพระสิวลีท่านเป็นพระอรหันต์ สิ้นแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง การบูชาพระอริยสงฆ์ย่อมบังเกิดลาภสักการะ และก็ได้บุญมากอีกเช่นกัน น้อมนำเอาคุณอันประเสริฐนั้นมาเป็นแนวทางในการทำบุญทำทาน ทำความดีในการดำเนินชีวิต ย่อมดีกว่าบูชาหรือแขวนไว้เฉยๆแล้วไม่ได้นึกถึงท่าน คิดแต่ว่ามีของดีอยู่กับตัวแล้วท่านจะช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวอย่างแน่นอน
ผู้เข้าชม
7220 ครั้ง
ราคา
เพื่อการศึกษาเท่านั้น
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
นนท์ มหาโชค
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0890999979
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ชยันโตtermboonแจ่มด้วง เกิดผลสีหราชบ้านพระหลักร้อย
chathanumaanchaithawatเนินพระ99Leksoi8NongBossTotoTato
เจริญสุขทองธนบุรีแหลมร่มโพธิ์Poomatponsrithong2Zomlazzali
Pongpasinหริด์ เก้าแสนchaokohKshopBAINGERNเปียโน
Nithipornโกหมูปลั๊ก ปทุมธานีพุทธคุณDEAWvanglanna

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1188 คน

เพิ่มข้อมูล

พระสิวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระสิวลี หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
รายละเอียด
พระสิวลีเป็นพระอรหันต์ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า “พระอรหันต์ผู้เป็นเลิศในทางมีลาภมาก” มีอานุภาพให้ผู้ใช้เจริญด้วยลาภสักการะ ผลประโยชน์ที่ยังไม่เกิดก็ให้เกิดขึ้น ที่เกิดแล้วก็ให้เจริญงอกงาม รวมทั้งปัดเป่าอุปสรรคให้คลายจาง ความสำเร็จเข้ามาแทนที่

...พระสิวลีหล่อโบราณ ประมาณปี249กว่าๆ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อพ่อปาน วัดบางเหี้ย หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน หลวงปู่ฉาย วัดพนัญเชิง หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก...ท่านสำเร็จ นะปัดตลอด (สุดยอดทางแคล้วคลาด) พิธีปลุกเสกของวัดสุทัศน์ จะเชิญท่านมาร่วมปลุกเสกทุกครั้ง...ท่านยังสำเร็จศิลปะวิทยาที่ว่าด้วยการสร้าง "พระสิวลี" ด้วยความที่การสร้างพระสิวลีของท่านเป็น "วิชา" ความขลังที่ปรากฏจึงอยู่ในลักษณะของวิชา ผิดกับพระสิวลีที่ถูกอธิษฐานด้วยพระอริยบุคคลโดยทั่วไป อานุภาพที่ปรากฏจึงแปลกต่างกว่ากันอยู่มาก คนที่อาราธนาติดตัวเท่านั้นจึงจะทราบดี...!
...หลวงพ่อแฉ่ง ท่านสร้างพระสีวลีได้มากประสบการณ์ที่สุด และเป็นที่ต้องการมากที่สุดของบรรดาพ่อค้าแม่ขายไปจนถึงนักธุรกิจ เด่นทางทำมาค้าขึ้น เจริญรุ่งเรือง โชคลาภ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาด...( นะพุทโธ เมตตา นะชาลีติ 9จบ )

...วัดบางพังเป็นวัดเก่าแก่ โดยชาวบ้านสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา เหตุที่ชื่อวัดบางพังก็เนื่องจากวัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังเข้ามาเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "วัดบางพัง" ชื่อเป็นทางการชื่อว่า "วัดศรีรัตนาราม"

หลวงพ่อแฉ่งท่านเกิดที่ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2428 โยมบิดาชื่อ สิน โยมมารดาชื่อ ขลิบ ตอนเด็กๆ ท่านเป็นคนที่มีลักษณะดีผิวพรรณงาม บิดาจึงตั้งชื่อว่า แฉ่ง ในปีพ.ศ.2443 บิดา-มารดาได้นำไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดสลักเหนือ 1 พรรษา ก็สึกออกมาช่วยบิดามารดาทำงานเป็นหัวแรงสำคัญของครอบครัว ท่านเป็นคนขยัน รักสงบไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่อมามี เหตุให้ท่านต้องไปอยู่ทางภาคเหนือ แล้วก็อุปสมบทที่วัดทางภาคเหนือ หนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก พอบวชแล้วท่านก็ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนเรียนพุทธาคมจากพระอาจารย์อีกหลายองค์ จากนั้นท่านก็ออกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ในป่าเขาลำเนาไพร แถบภาคเหนือ ภาคอีสาน เลยเข้าไปถึงประเทศลาว เขมร พม่า ท่านธุดงค์นานถึง 15 ปี จึงย้อนกลับมาภูมิลำเนาเดิม ที่บ้านวัดสลักเหนือ มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางพัง ชาวบ้านในแถบนั้นจำท่านแทบไม่ได้...

วัดบางพัง ขณะนั้นมีพระอธิการเจริญเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งอยู่ในวัยชรามาก บริหารงานภายในวัดไม่ไหว เสนาสนะต่างชำรุดมาก จึงเป็นภาระของ หลวงพ่อแฉ่งรับภาระทำการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างแข็งขัน ร่วมกับชาวบ้านในแถบนั้น จนวัดเจริญขึ้น ด้วยชาวบ้านศรัทธาในตัวหลวงพ่อแฉ่ง ครั้นหลวงพ่อเจริญมรณภาพลง ทางคณะสงฆ์จึงได้ออกหนังสือแต่งตั้งให้หลวงพ่อแฉ่งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทน เป็นที่ยินดีของชาวบ้าน เนื่องท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเสมอมา วิชาอาคมต่างๆ ที่ท่านได้ร่ำเรียนมาจากการออกธุดงค์ ได้นำมาช่วยชาวบ้านที่ถูกของ ถูกคุณไสยต่างๆ ทั้งวิชาแพทย์แผนโบราณท่านก็มีความชำนาญเป็นอย่างยิ่ง ช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้านหายไปทุกราย น้ำมนต์ของท่านก็ขลังนัก ดื่ม อาบ พรม เป็นสิริมงคลรักษาโรคภัยได้

พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อแฉ่งมีประสบการณ์ในครั้งสงครามอินโดจีนมาแล้วจนมีชื่อ เสียงโด่งดังมาก และในพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ๆ หลวงพ่อแฉ่งท่านได้ถูกนิมนต์ให้ร่วมพิธีทุกครั้ง หลวงพ่อแฉ่งท่านมรณภาพลงในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 สิริอายุได้ 72 ปี พรรษาที่ 52
______________________________________________________________________________________________________________________________

"พระสิวลี"...พระอรหันต์สาวกผู้เป็นเลิศทางด้านโชคลาภ!
...พระฉิม พระฉิมพลี พระฉิมพาลี พระอรหันต์สาวกในสมัยพุทธกาล ผู้เป็นเลิศทางลาภสักการะ!! สาวกพุทธเจ้า ผู้ใดได้บูชาจะเป็นศิริมงคล ก่อเกิดโชคลาภขจัดความทุกข์ยากบังเกิดความคล่องตัวในการประกอบสัมมาอาชีพ

...พระสิวลี เป็นที่รู้จักกันในหมู่พุทธศาสนิกชนว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ ที่มีบารมีในทางด้านโชคลาภ คือท่านจะเดินทางไปทางไหน สู่ที่แห่งใด ก็มักจะเกิดลาภกับท่านอยู่เสมอ การที่อาศัยบารมี ของพระฉิมพลี หรือ พระสิวลี จะทำให้ผู้ที่เคารพบูชาท่านได้รับผล เป็นความสงบสุขร่มเย็น และสมบูรณ์พูนสุขด้วยโภคทรัพย์ ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีลาภ คนไทย นับถือ พระฉิมพลีมาจากชาวมอญที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองไทย และได้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันก็ได้มีการปั้น หรือสร้างพระสีวลี หรือ พระฉิมพลี ประดิษฐานไว้ทั่ววัด หรือได้มีผู้คนนำไปบูชาที่บ้านเพื่อกราบไหว้และก่อให้เกิดโชคลาภ ความสวัสดีมีชัยแก่ตนและครอบครัวพระฉิมพลี มีรูปลักษณ์อิริยาบถท่ายืน หรือท่ากำลังเดินออกธุดงค์ เป็นรูปพระภิกษุสงฆ์ ยืนถือไม้เท้าในมือขวา ส่วนมือซ้ายนั้นแบกกลดพาดอยู่บนบ่า และสะพายย่ามใส่เครื่องอัตถบริขาร

...คณาจารย์ผู้เรืองเวทย์แก่กล้าในฌานสมาบัติและมีบุญบารมี มักจะสร้าง พระสิวลีขึ้นในรูปแบบของพระผง รูปหล่อ อักขระยันต์ ในแบบของตะกรุด หรือธงพระสิวลี ทำการปลุกเสกด้วยอำนาจจิต และคาถาอาคมจนมีความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนนำไปบูชาแล้วบังเกิดโภคลาภ เจริญรุ่งเรืองประสบความสำเร็จนาๆนับประการจนเป็นที่กล่าวชานเลื่องลือ พระสิวลีที่ถูกสร้างเป็นพระเครื่อง และได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากผู้นิยมพระเครื่องพระบูชา เนื่องด้วยท่านสำเร็จวิชา "สิวลี" อันได้แก่ พระสิวลีของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง และอีกท่านที่สำเร็จวิชา "ดวงแก้วสิวลี" ได้แก่ พระสิวลีหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ทั้งสองท่านโดดเด่นเป็นเอกอุในทาง "ขลัง" ที่ปรากฏอยู่ในลักษณะของวิชา ซึ่งจะผิดกับพระสิวลีที่ถูกอธิษฐานจิตด้วยพระอริยะทั่วไป อานุภาพที่ปรากฏจึงแปลกต่างกว่ากันอยู่มากมาย คนที่อาราธนาติดตัวเท่านั้นจะทราบดี ประจักษ์ชัดเป็นที่ปรากฎแก่ผู้ที่ได้นำไปอารธนาใช้บุชาใช้ติดตัวแบบชัดเจน

...การบูชาพระสิวลีที่เป็นพระเครื่องนอกจากจะได้บารมี และพลังอำนาจของเกจิอาจารย์ที่ท่านปลุกเสกไว้ การบูชาพระสิวลีที่ถูกต้องควรน้อมจิตระลึกถึงคุณของพระอริยสงฆ์ เพราะพระสิวลีท่านเป็นพระอรหันต์ สิ้นแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง การบูชาพระอริยสงฆ์ย่อมบังเกิดลาภสักการะ และก็ได้บุญมากอีกเช่นกัน น้อมนำเอาคุณอันประเสริฐนั้นมาเป็นแนวทางในการทำบุญทำทาน ทำความดีในการดำเนินชีวิต ย่อมดีกว่าบูชาหรือแขวนไว้เฉยๆแล้วไม่ได้นึกถึงท่าน คิดแต่ว่ามีของดีอยู่กับตัวแล้วท่านจะช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวอย่างแน่นอน
ราคาปัจจุบัน
เพื่อการศึกษาเท่านั้น
จำนวนผู้เข้าชม
7221 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
ชื่อร้าน
นนท์ มหาโชค
URL
เบอร์โทรศัพท์
0890999979
ID LINE
0890999979
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี